ในชีวิตประจำวัน เรามีโอกาสนั่ง เดิน นอน รับประทานอาหาร พูดและฟัง สิ่งเหล่านี้เป็นอิทยาบทที่เราสามารถฝึกปฏิบัติ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงสอนไว้เพื่อให้เราฝึกภาวนากับอิริยาบถเหล่านั้นได้อยู่เสมอ

การผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ ( Total relaxation ) คือการนอนสมาธิ ซึ่งหมายถึงการกลับมาดูแลกายของเรา เมื่อเรากลับมาดูแล และผ่อนคลายกาย กายของเราได้ ใจของเราก็ผ่อนคลายไปด้วยเช่นเดียวกัน กายของเรานั้น เป็นพื้นฐานอันสำคัญลำดับแรกในการเจริญสติ ดังที่เราได้ศึกษาในสติปัฏฐานสูตร หรือพื้นฐานแห่งการเจริญสติ 4 ประการ ซึ่งประการแรก คือ "การเจริญสติ กายในกายของเรา"

เมื่อเราเจ็บป่วย เราอาจจะต้องไปโรงพยาบาล แล้วใช้เครื่องสแกนร่างกายเพื่อให้เรารู้ว่าเราเจ็บป่วยตรงไหนบ้าง แต่เราเรียนรู้การใช้ลมหายใจของเราฉายแสงแห่งสติลงไปในกายของเรา แต่ละส่วนได้ ช่วยทำให้เรารู้ว่าส่วนไหนของร่างกายมีความตึงเครียด และเราผ่อนคลายด้วยลมหายใจและด้วยพลังแห่งสตินั้น

การผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ เราสามารถฝึกเช่นนี้ได้ทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใดก็ตามที่เราจะล้มตัวลงนอน เมื่อเราฝึกทุกวันจนเป็นนิสัยหรือเป็นกิจวัตรประจำวัน เราจะเห็นว่าการนอนของเราจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเราได้นอนหลับอย่างสบาย หรือหลังจากการที่เราทำงานเหน็ดเหนื่อย เราก็สามารถงีบพักได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เราจึงมีความสุข เพราะได้รับการผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ เรายังฝึกการผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์นี้ในท่านั่งได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่เราต้องนั่งอยู่บนรถเมล์เป็นเวลานาน หรือนั่งอยู่ในที่ทำงาน หรือนั่งพักผ่อนอยู่ในสวนก็ตาม

ที่หมู่บ้านพลัม ได้นำวิธีการฝึกปฏิบัติผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์นี้ เข้ามาใช้ในช่วงพักหลังอาหารกลางวัน เรานอน ผ่อนคลายเช่นนี้ โดยมีบทนำที่ประกอบด้วยเสียงเพลงที่กล่อมให้สงบ คลายความเครียดต่าง ต่าง เป็นเวลา 45 นาที หลังจากนั้น เราจะเริ่มต้นทำงานใหม่ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสดชื่นเบิกบาน มีพลัง มีความชัดเจนแจ่มใส