พระสูตรหันเข้าหาพระตถาคต

April 21, 2025

พระสูตร หันเข้าหาพระตถาคต

โดย ภิกษุณีจันทร์น้ำใส (Sr. Trăng Thanh Thủy : จรัง ทัน ถุย)

ความยาว 9 นาที 17 วินาที


หันเข้าหาพระตถาคต

ลูกขอหันหน้าเข้าหาและน้อมกราบองค์พระตถาคต

พระองค์ผู้เป็นดวงประทีปฉายส่องห้วงทะเลแห่งความทุกข์

ขอพระองค์ผู้ทรงกรุณาโอบอุ้มยอมรับ

หมู่ลูกวันนี้ขอตั้งปณิธานเข้าพึ่งด้วยดวงจิต

(ระฆัง)


พวกเราเหล่าศิษย์ ได้รับผลบุญทั้งสี่มาอย่างเปี่ยมล้น

ยังมิทันได้มีโอกาสทดแทน

ครั้นมองออกไปในภพสามทั้งสี่ด้าน

จึงเห็นสรรพชีวิตทั้งปวงยังหลงจมในทุกข์ภัย

พลันตกใจหวั่นเกรง ด้วยรู้ว่าแม้เราได้หันหน้าไปถูกทิศ

แต่ครั้นมองอีกที ก็ยังเห็นว่าฟากฝั่งแห่งการรู้แจ้งนั้นยังอีกยาวไกล

โชคดีแท้ที่ในโลกแห่งทุกข์อันวุ่นวายใบนี้

ที่ใดก็ล้วนมีฝ่าพระหัตถ์แห่งพระองค์ผู้ทรงกรุณาคอยช่วยเหลือให้พ้นภัย

(ระฆัง)


ฉะนั้นแล้ว วันนี้หมู่ลูกจึงมาตั้งจิตรวมเป็นหนึ่ง

อธิษฐานขอเป็นลูกศิษย์ ยึดเอาพระตถาคตเป็นที่พึ่ง

ลูกขอรวบรวมกายและใจ น้อมคุกเข่าใต้พระพุทธบัลลังก์

สลัดทิ้งธุลีกิเลสเกาะติดจิต

เพื่อน้อมบูชาพระองค์ด้วยทั้งหมดแห่งดวงใจ

ขอน้อมรับไว้ซึ่งพระธรรมอันประเสริฐ

ทุกๆ วัน พากเพียรภาวนา หล่อเลี้ยงศีล สมาธิ ให้เติบโต

เพื่อสักวันภายหน้า จักสำเร็จผลแห่งการตรัสรู้นั้นได้

หมู่ลูกขออธิษฐาน คืนและวันจงปกป้อง

ขอองค์พระพุทธ พระธรรม และสังฆะโปรดเมตตา

(ระฆัง)


พวกลูกรู้ชัดว่า ตนมีกรรมขวางกั้นนั้นยังหนัก

บุญกุศล คุณธรรมยังน้อยนัก

ความสำคัญมั่นหมายใจยังผิดพลาดอยู่เสมอ

ปัญญายังไม่มั่นคงตรงถูก

จิตแปดเปื้อนกิเลสได้ง่าย

ฟัง คิด ทำ ยังไม่หนักแน่นจริงแท้

ชั่วขณะนี้มองขึ้นบนบัลลังก์ดอกบัว

กายห้าส่วนลงกราบแทบพื้น

ขอพลังเมตตาจงเปิดกว้าง หมู่ลูกขอเปิดใจ แผ่ออกหมดสิ้น

(ระฆัง)


พวกเราเหล่าลูกศิษย์จากหลายชาติในอดีตกาลนานไกล

เพราะไม่อาจตระหนักถึงจิตเดิมแท้ประภัสสร

จึงได้วิ่งตามสิ่งล่อลวงนานา

ปล่อยให้กาย วาจา ใจ แปดเปื้อน

หลงจมลงในรัก โลภและหลงใหล

ทั้งนี้จึงกลับมาอาศัยเสียงระฆังใหญ่ปลุกให้ตื่นขึ้นพลัน

ตัดสินใจด้วยจิตที่เป็นหนึ่ง เริ่มต้นกายและใจใหม่

อธิษฐานจักชำระความผิดพลาดทั้งหลาย

ให้สะอาดใหม่สิ้นทั้งหมดทั้งมวล

นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป หมู่ลูกขอตั้งปณิธาน

จักสลัดทิ้งพลังนิสัยความเคยชินแต่ก่อนมา

ขอเข้าพึ่งสังฆะตลอดชีวิต

ขอพระพุทธองค์โปรดยื่นพระหัตถ์เปี่ยมพระคุณ

ขอทรงพระกรุณาเกื้อหนุน

ลูกขอตั้งจิตมั่นว่า เมื่อลูกได้ปฏิบัติสมาธิภาวนา

หรือสนทนา ศึกษาธรรม

ยืน เดิน นั่ง นอน

หุงข้าว ล้างบาตร ล้างชาม หรือทำงาน

อธิษฐานรำลึกนึกเอ่ยพระนาม

หรือจุดธูปน้อมกราบพระพุทธองค์


ลูกจักทําให้ทุกย่างก้าวจงนํามาซึ่งสันติสุข

และทุกรอยยิ้มจงเบ่งบานฉายแสงแห่งอิสระ

มีสติในทุกชั่วขณะนาที นั่นคือการได้ชี้ให้ผู้คนเห็นหนทางพ้นทุกข์

ปณิธานจักขอสัมผัสแดนสุขาวดี ในทุกย่างก้าวใต้ฝ่าเท้าเรา

ขอตั้งใจสัมผัสมิติปรมัตถ์ในทุกครั้งที่ติดต่อสื่อสารทำการใดๆ

ก้าวเดินบนผืนปฐพีที่จริงแท้

หายใจในความว่างที่แท้จริง

จุดประกายสว่างแจ้งในห้วงจิต

เลิกม่านแห่งความหลงออกไปจากใจตน

กายใจสงบสุข ท่วงท่าสง่าและเสรี

ครั้นถึงคราต้องลาโลก ใจไม่โศกศัลย์ กายไม่เจ็บปวด

ความดําริไม่มืดหม่นหมองมัว

สติแจ่มชัด ทวารทั้งหก สงบดี

สละทิ้งรูปกายนี้ได้ ดั่งตั้งสมาธิเข้าฌาน

หากจําต้องเกิดใหม่ในชาติหน้า

จะขอเป็นศิษย์พระตถาคตต่อไป

สานต่อภารกิจช่วยขนย้าย นำพาสรรพสัตว์ไปสู่ฝั่งแห่งการตื่นรู้

บรรลุกายสาม และฌานสี่ ใช้สอยจักษุห้า อภิญญาหก

เนรมิตตนได้นับหมื่นพันกาย

ปรากฏพร้อมกันในโลกทั้งสาม

เข้าออกได้อย่างอิสระ

ช่วยขนพาไปทุกชีวิต ไม่ทิ้งใครไว้สักคน

ทั้งหมดทุกคนขนขึ้นฝั่งไปโดยไม่ลำเอียง

(ระฆัง)


โลกนี้ไร้ขอบเขต

สรรพสัตว์ก็มากล้นเหลือคณานับ

ทั้งกรรมและกิเลส ล้วนแต่ไร้ขีดคั่น

ปณิธานลูกก็จักเป็นเช่นนั้น

คือไม่มีขีดจํากัดนั่นแล

ลูกน้อมกราบพระพุทธะ ขออธิษฐาน

จักอุทิศบุญกุศลแห่งการภาวนา

แบ่งปันแก่สิ่งมีชีวิตถ้วนทั่วทุกตัวตน

เพื่อทดแทนบุญคุณทั้งสี่โดยครบถ้วน

และเผยแผ่พระธรรมทั่วถิ่นในภพสาม

ขอร่วมทางไปกับสรรพชีวิตทั้งผอง

เพื่อบรรลุถึงปัญญาตื่นรู้อันยิ่งใหญ่ เทอญ

(ระฆัง)